สรุป
เรื่อง การแทนค่า - KS1 Numeracy :Teaching Place Value
จากที่ดิฉันได้ดู ครูจะใช้โต๊ะคณิตศาสตร์และการเดินทางจากโต๊ะสิ่งของเพื่อให้เด็กเห็นภาพในการคำนวณ โดยให้เด็กมีความพยายามที่จะเรียนรู้คณิตศาสตร์ คือ ครูจะเขียนตัวเลขแล้วไม่บอกเด็กว่าตัวเลขนั้นคือเลขอะไร แล้วให้เด็กหยิบของที่อยู่โต๊ะสิ่งของมาวางที่โต๊ะคณิศาสตร์ให้ถูกต้อง และครูยังใช้สัญญาลักษณ์ในการแทนค่า หรือตัวเลข เช่น 3+2= 5 เป็นต้น และเด็กได้เล่นบทบาทสมมุติในการย้ายดต๊ะสิ่งของมายังโต๊ะคณิตศาสตร์ที่มีจำนวนตัวเลขมาก อย่างเช่น 3000 หรือ 2000 ครูก็จะเขียนตัวเลขใหเด็กดู หลังจากนั้นให้เด็กเขียนตามเด็กก็จะเกิดการเรียนรู้ขึ้นไปเรื่อยๆตามลำดับ
สรุปบทความ
ชื่อบทความ : เรียนรู้คณิตศาสตร์ผ่านศิลปะ
เมื่อเราพูดถึงศิลปะกับคณิตศาสตร์ หลายคนอาจคิดว่าเข้ากันได้ยาก แต่ในความเป็นจริงแล้วศิลปะมักมีคณิตศาสตร์มาเกี่ยวข้องอย่างมากมาย และศิลปะยังช่วยให้ความสามารถทางคณิตศาสตร์โดดเด่นได้ ไม่ว่าจะเป็นงานวาดภาพ งานปั่น ล้วนสามารถเชื่อมโยงเข้ากับคณิตศาสตร์ได้ทั้งสิ้น ในการสอนคณิตศาสรต์สำหรับเด็กได้อย่างสนุกสนานนั้นไม่ควรไปกดดัน ค่อยๆเป็นค่อยๆไป
ศิลปะช่วยให้เรียนรูจำนวนนับ ขนาด และรูปทรง
ในการวาดภาพศิลปะเด็กสามารถเรียนู้จากการวาดภาพ เช่น ต้นไม้ว่ามีกี่ต้น 2 ต้น ดอกไม้ 3 ดอก เด็กก็จะเรียนรู้ค่าของตัวเลขจะจำนวนนับ 1 2 3 ที่มีอยู่ในรูปภาพตามลำดับ
และเด็กยังได้เรียนรู้รูปทรงต่างๆที่มีขนาดที่แตกต่างกันออกไป เช่น ใหญ่ เล็ก สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยว วงกลม เป็นต้น
ศิลปะช่วยให้เรียนรู้มิติสัมพันธ์
เด็กจะเรียนรู้มิติสัมพันธ์ได้ดีจากงานปั่นมากกว่าภาพวาด เพราะงานปั่นจะมีความกว้าง ยาว และความลึกหรือความหนา โดยเด็กที่จะทำงานปั่นได้ดีจะอยู่ใรช่วงอายุ 5-6 ขวบ
เมื่อพ่อแม่ไม่เก่งศิลปะ
พ่อแม่ไม่เก่งศิลปะ จะนำศิลปะมาสอนให้ลูกเรียนรู้คณิตศาสตร์ได้อย่างไร
- ย้ำ เช่น เมื่อลูกเห็น เลข 3 ที่เราเขียนให้ เขาก็จะรู้ว่าตัวเลขนี่เรียกว่าอะไร พอเขาไปเห็นดอกไม้3 ดอกพร้อมกำกับตัวเลขไว้ข้างๆก็เท่ากับว่าเป็นการย้ำการเชื่อมโยงจำนวนที่สัมพันธ์กับเลข 3
- ต่อเติม เด็กจะต้องมีประสบการณืตรงในลักษณะของภาพพอสมควร เช่น เมื่อคุณพ่อคุณแม่วาดภาพเท้าสัตว์เด็กสามารถต่อเติมภาพนั้นตามจิตนาการของเขาได้ตามที่เขาเคยได้รับรู้
- สร้างงานใหม่ ชวนเด็กคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ เช่น การสร้างบ้านหลังเล็กๆอาจจะใช้เศษไม้เล็กๆมาต่อเป็นบ้าน เป็นต้น
เทคนิคการสอนศิลปะตามวัย
- อายุ 2-3 ขวบ ให้ลูกวาดภาพสัก 1 รูป โดยคุณพ่อคุณแม่ค่อยให้คำแนะนำเขานิดๆหน่อยๆ
- อายุ 3-4 ขวบ สามรถเพิ่มความยากจากงานศิปละ เช่น วาดภาพระบายสี หรือ ปั่นดินน้ำมัน เป็นรูปสัตว์ต่างๆ ลูกก็จะเรียนรูการกะ การคำนวณ ขนาดของตัวสัตว์ ใหญ่ เล็ก
- 5 ปีขึ้นไป เป็นวัยที่ลูกจะเรียนรู้มิติสัมพันธ์ผ่านการปั้นได้ดี
เช่น ให้ลูกร้อยลูกปัดขนาดและสีสันต่างๆ โดยให้ลูกร้อยตามโจทย์ที่กำหนด เช่น
ลูกปัดกลมสีแดง = 3 สีฟ้า = 5 สีเขียว =3 ให้ลูกบวกเลขตามลูกปัดที่ร้อยมา
เป็นต้น
สรูปงานวิจัย เรื่อง ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่ได้จากกิจกรรมการสาน
ของ วันดี มั่นจงดี
บทที่ 1 บทนำ
ภูมิหลัง : ผู้วิจัยมีความสนใจที่จะส่งเสริมทักษะทางคณิตศาสตร์ให้เด็กปฐมวันด้วยกิจกรรมการสาน กิจกรรมน่าสนใจและสนุกสนานเพลิดเพลินช่วยส่งเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังที่ได้รับจากกิจกรรมการสาน ทั้งนี้ให้ครูจัดการเรียนการสอนจากกิจกรรมการสานอยางคุ้มค่า เหมาะสม สอดคล้องกับวัย ความสนใจ ความต้องการ และสภาพท้องถิ่น
ความมุ่งหมาย
1. เพื่อเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ก่อนและหลังในกิจกรรมการสาน
2. เพื่อศึกษาระดับทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ก่อนและหลังในกิจกรรมการสาน
ความสำคัญ : เพื่อส่งเสริมทักษะทางคณิตศาสตร์ให้เด็กปฐมวัยอย่างมีความหมายและเกิดประโยชน์ สามารถนำกิจกกรรมการสานไปพัฒนาทักษะทางคณิตศาสตร์
ขอบเขต
ประชากรที่ใช้ในการวิจัย : เด็กปฐมวัย ชาย-หญิง อายุ 4-5 ปี ของโรงเรียนวัดนิมมานรดี
กลุ่มตัวอย่าง : เด็กปฐมวัย ชาย-หญิง อายุ 4-5 ปี ชั้นอนุบาล 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2553ของโรงเรียนวัดนิมมานรดี
ตัวแปรที่ศึกษา : ตัวแปรอิสระ ได้แก่ การจัดกิจกรรมการสาน
ตัวแปรตาม ได้แก่ ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์
นิยามคำศัพท์
เด็กปฐมวัย หมายถึง เด็กปฐมวัย ชาย-หญิง อายุ 4-5 ปี ชั้นอนุบาล 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2553ของโรงเรียนวัดนิมมานรดี
ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ หมายถึง การสังเกต เปรียบเทียบ การจัดเรียงลำดับ และการรู้ค่าจำนวน
กิจกรรมการสาน หมายถึง การนำวัสดุต่างๆ เช่น ผ้า ไหมพรม ริ้บบิ้น จัดกิจกกรมศิลปะสร้างสรรค์ในชีวิตประจำวัน โดยสัดาห์ละ 4 วัน แตละกิจกรรมมีขั้นตอนดังนี้
ขั้นนำ : ใช้คำถาม เพลง นิทาน คำคล้องจอง เพื่อกระตุ้นให้เด็กมีความสนใจและมีความพร้อมในการทำกิจกรรมต่อไป
ขั้นสอน : ครูและเด็กศึกษาสื่อร่วมกัน ครูอธิบายวิธีการสานพร้อมสาธิตให้เด็กดู แล้วให้เด็กลงมือโดยครูจะเดินดูและช่วยเหลือ เมื่อหมดเวลาครูเตือนเด็กเก็บอุปกรณ์และทำความสะอาด
ขั้นสรุป : โดยให้เด้กนำเสนอผลงาน สนทนาโต้ตอบเกี่ยวกับกิจกรรมที่ทำ พร้อมทั้งสรุปความรู้เกี่ยวกับทักษะทางคณิตศาสตร์ คือ การจำแนกเปรียบเทียบ การจัดหมวดหมู่ การเรียงลำดับ เด้กได้เรียนรู้หลังจากทำกิจกรรม
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ความหมายของสติปัญญา : ความสามารถทางสมองของบุคคลในการเรียนรู้คิดหาเหตุผล ความรู้รอบตัวรู้จักคิด ตัดสินใจแก้ปัญหา รู้จักปรับตัวต่อสถานการณ์สิ่งแวดล้อมได้อย่างเหมาะสม
ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญา
ทฤษฎีสติปัญญาของเพียเจท์ แบ่งออกเป็น 4 ขั้น
1. ขั้นประสานสัมผัสและการเคลื่อนไหว
2. ขั้นความคิดก่อนการปฏิบัติการ
3. ขั้นปฏิบัติการคิดแบบรูปธรรม
4. ขั้นปฏิบัติการคิดแบบนามธรรม
ทฤษฎีสติปัญญาของบรูนเนอร์ แบ่งออกเป็น 3 ขั้น
1. ขั้นการเรียนรู้ด้วยการกระทำ
2. ขั้นการเรียนรู้ด้วยจิตนาการ
3. ขั้นการเรียนรู้โดยใช้สัญาลักษณ์
ความหมายทักษะทางคณิตศาสตร์ : ความรู้เบื้องต้นที่เด็กจะได้รับรู้ และมีประสบการณ์ ได้ฝึกการสังเกต จำแนก เปรียบเทียบ การบอกตำแหน่ง การเรียงลำดับ การนับ
ความสำคัญ : คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่สำคัญวิชาหนึ่ง ที่จะนำไปใช้ชีวิตประจำวันตลอดชีวิตและเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต
จุดมุ่งหมาย : เพื่อเป็นการเตรียมเด็กให้พร้อมที่จะเรียนรู้และทำกิจกรรมทางคณิตศาสตร์ให้เหมาะสมกับวัย โยฝึกให้เด็กรู้จักสังเกต สามารถแยกหมวดหมู่ จัดหมวดหมู่ ของสิ่งของต่างๆรอบตัวเด็ก โดยผ่านกิจกรรมต่างๆที่เกิดความสนุกสนานเร้าใจ เพื่อให้เด็กมีใจรักคณิตศาสตร์
ความหมายของการสาน : การนำวัสดุที่แปรรูปแล้วนำมาสาน เป็นรูปทรงต่างๆตามกรรมวิธี ในการสานมีหลากหลายรูปแบบมีลักษณะแตกต่างกันตามประโยชน์ใช้สอย
บทที่ 3 วิธีดำเนินงานวิจัย
เครื่องมือที่ใช้งานวิจัย
1. แผนการจัดกิจกรรมการสาน
2. แบบทดสอบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์
สถิติการหาคุณภาพของเครื่องมือ : ความเที่ยงตรง IOC
บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
หลังจากจัดกิจกรรมการสานของเด็กปฐมวัยมีทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์อยู่ในระดับดีทั้งดดยรวมและรายด้านทุกด้าน เมื่อพิจารณาแล้วพบว่า การเรียงลำดับมากเป็นอันดับแรก รองลงมา คือ ทักษะการจัดหมวดหมู่ ด้านทักษะการรู้ค่าจำนวน ส่วนด้านทักษะการเปรียบเทียบ เด็กปฐมวัยมีความสามารถเป็นอันดับสุดท้าย
บทที่ 5 สรุปอภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
การจัดกิจกรรมการสานทำให้เกิดทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ คือ ได้ปฏิบัติกิจกรรมเป็นรูปธรรม เด็กได้เรียนรู้ผ่านประสานสัมผัสและได้รับประสบการณ์จากการลงมือปฏิบัติกิจกรรม จึงส่งผลทักษะพื้นฐานคณิตศาสตร์ในแต่ละด้าน ได้แก่ การสังเกต เปรียบเทียบ การจัดหมวดหมู่ การเรียงลำดับ การรู้จักค่าของจำนวน ซึ่งแต่ละด้านมีความแตกต่างกันตาสความสามรถพื้นฐานเดิม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น